"Fly high but don't fly alone"
[กรุ] ชำแหละ Acer 5593
15 Aug 2009 22:55   [9957 views]

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Blog วันนี้ไม่ใช่ Blog ใหม่ แต่เป็น Blog จากเว็บเก่า เผอิญมีคนขอให้ไปขุดมาเพื่อที่จะทำตาม... เราก็เลยลงทุนไปขุดมาจากแหล่งที่พอมีข้อมูลหลงเหลือเก็บไว้อย่างยากลำบาก ~ ~


Blog นี้เป็น Blog เกี่ยวกับการซ่อมเครื่อง Acer 5593 ที่ตอนนั้นพังโดยไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายจึงได้รู้ว่ามัน Overheat เนื่องจากการออกแบบที่ไม่ดี ยังไงใครที่เคยอ่านแล้วหรือไม่สนใจก็ข้ามไปได้นะ! เริ่มหละน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


ชำแหละ Acer 5593

ใครติดตาม Blog เรามาตลอด ก็คงจะรู้ว่าเรามีปัญหากับเจ้า Acer Aspire 5593 สเปคแรงราคาถูก แต่คุณภาพตามราคามาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งปีที่ผ่านมาเข้าศูนย์ไปถึงสามรอบ (จริงๆควรจะสี่ ถ้าไม่ได้ติดงานจนเอาเครื่องไปซ่อมไม่ได้) ล่าสุดเช้าหลายวันก่อนก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ส่งผลให้มันต้องดับอนาถไปในที่สุด เป็นความซวยที่ทำให้เสียทรัพย์ เวลาและโอกาสไปหลายอยู่ แต่ก็ทำให้ได้รู้จักอะไรเพิ่มอีกหลายอย่างเลย นี่แหละ สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ!! หลายคนคงรู้เรื่องราวแล้วหละ แต่อีกจำนวนมากยังไม่รู้ วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังกันว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกัน




เช้าวันนั้น เวลาประมาณ 10 นาฬิกา... ระหว่างกำลังจะออกจากบ้าน สิทธิพลถือโน้ตบุ๊คด้วยมืออันบอบบางสองข้าง กำลังจะเอาไปเก็บในกระเป๋าใบน้อยๆที่ยืนคอยอยู่หน้าประตู ทันใดนั้นเอง... ไม่มีลางบอกเหตุใดๆทั้งนั้น อยู่ๆโน้ตบุ๊คราคาสี่หมื่นบาทก็หลุดออกจากมือที่ระดับความสูง 1 เมตร ตกลงสู่พื้นเสียงดัง "ตุ๊บ!" ตกแบบนิ่งๆเลยด้วย ไม่มีการกระเด้งหรือกระแทกอะไรมากกว่านั้น แต่ด้วยความตกใจๆๆๆๆๆ เลยหยิบมาเปิดฝาพับดู โอ้ววววว ทำไมฝุ่นเยอะจังวะ!! ประมาณว่า สิ่งสกปรกทุกอย่างที่กองอยู่ใต้คีย์บอร์ด ถูกแรง g กระแทกออกมาหมด เยี่ยม! ดีเลย กำลังอยากทำความสะอาดคีย์บอร์ด เลยเป่าออกให้หมด (ยังจะมีอารมณ์เป่า)


แล้วก็รีบเปิดเครื่องดู ปรากฎว่า... เครื่องเปิดได้ เฮ้อ... โล่ง บู้ทผ่านหน้าเช็ค System ไป ผ่านไปประมาณ 5 วิได้ "วูบบบบบบ" เสียงทุกอย่างในเครื่องเหมือนจะถูกตัดการทำงานลงด้วยการดึงปลั๊กออกไม่มีผิด แต่เอ๊ะ! ปลั๊กก็ยังอยู่นี่หว่า ฉิบหายแล้วววววววววววว เลยลองเปิดใหม่ คราวนี้... 4 วิดับ -_- ว้ากกกกกกก โวยวายๆๆๆ เพราะงานจำนวนมากอยู่ในนั้น กลัวๆๆๆ กลัว Harddisk พัง กลัวโน่นกลัวนี่ กลัวไปหมด จะลองเปิดกี่ทีก็เปิดได้ไม่เกิน 5 วิดับตลอด วินาทีนั้นหลายคนคงคิดว่าจะเอามันไปซ่อม แต่สารภาพว่าความคิดนั้นไม่อยู่ในหัวเราเลย ความคิดเดียวที่มีคือ "ซื้อเครื่องใหม่" แต่ยัง ยัง นั่นแค่ความคิด ยัง Alert กับของพังๆที่อยู่ตรงหน้าอยู่


ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยหลับตานั่งสมาธิ นึกถึงวันคืนเก่าๆอันแสนงดงาม... ไม่ใช่เวลามาทำง้านนนนนน!!! ก็เห็นว่าเปิดเครื่องไม่ขึ้นละ ก็เลยเช็คสภาพภายนอกของมันหน่อย ปรากฎว่าฝา Drive CD หลุดออกมา (จริงๆรู้ตั้งแต่ตกใหม่ๆแล้ว แต่ก็ประกอบกลับทันที) ตรงปุ่มฐานรองโน้ตบุ๊คก็แตกไปสองปุ่ม ที่หนักสุดเห็นจะเป็นรางแบตเตอรี่... แตก!! ส่งผลให้แบตเตอรี่เบี้ยวขนาดหนัก กว่าจะงัดออกมาได้แทบแย่ โชคดีที่ไม่ส่งผลในระยะยาว ก็แปลกใจอยู่ว่าพอไม่มีรางแล้วทำไมแบตมันยังถึงใส่ได้แบบไม่หลุด ประหลาดดี ~.~




หลังจากเช็คสภาพได้แป๊บนึงเครื่องเย็นลงบ้าง ก็เลยลองเปิดอีกที... เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยยย มันเข้าถึงหน้า Windows Splash Screen วิ่งๆได้ด้วย กรี้ดๆๆๆๆ "วูบบบบบ" เครื่องดับไปพร้อมความดีใจที่เพิ่งเกิดได้ไม่ถึงห้าวินาที แหมมมม มันมาไวไปไวจริงๆ =_= แต่ตอนนั้นก็ฟันธงได้แล้วว่าอาการที่เกิดขึ้นคงไม่พ้นอาการ Overheat แน่นอน เบื้องต้นคาดว่าการตกนั้นน่าจะทำให้ของสกปรกๆเข้าไปอุดพัดลม วันนั้นก็เลยพุ่งตรงไปจุฬาฯ ทำการรื้อเครื่องเจ้าปัญหาตัวนี้ทันที โดยมีเฟอร์และชิวเป็นผู้ร่วมกระบวนการ


ไปถึงก็เทสต์แบบเครียดๆไปหน่อยนึง ทำยังไงก็บู้ตไม่ได้ เลยตัดสินใจ "แงะ" สิ่งแรกที่แงะก็คือแผงสวิตซ์เปิด-ปิดเครื่อง แกะกึกๆๆๆๆอย่างชำนาญ เผอิญแงะบ่อยหนะตรงนี้ ~.~ เมื่อแผงหลุดออกก็แงะคีย์บอร์ดต่อ หงึกๆๆๆๆ แงะ.. ไม่ออก -_- โชคดีที่เฟอร์มาพอดี เลยให้เฟอร์แงะให้ ปรากฎว่าออกแฮะ แหม ประสบการณ์ดีๆ (หรือว่าเราไม่กล้าแงะเองวะ)




จากนั้นก็ถอดน็อตทุกตัวที่อยู่ใต้เครื่องออกหมด ถอดทุกอย่างที่เป็นไปได้ แล้วก็พยายามเอาตัว Body ออก แต่... เอาออกไม่ได้แฮะ



หลังจากพยายามสักพัก รู้สึกว่ามันฝืนๆ ก็เลยจำใจต้องถอดน็อตจอออกด้วย... (ตอนแรกไม่อยากจะยุ่งกับจอไง เลยไม่ถอด) ปรากฎว่า... โจรมันอยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย =_= พอถอดน็อตสองตัวนั้นออกได้ ตัว Body ก็ถอดออกมาได้อย่างง่ายดาย... จริงๆก็ไม่ง่ายนักหรอก งัดนานอยู่ ~.~


พอถอดออกมาได้ก็ โอ้ โหวววว ตื่นเต้นๆๆๆ ไม่เคยงัดมาถึงตรงนี้ ^^" กวาดตามองหา CPU อื้ม... ไม่มี -_- ต้องงัดเมนบอร์ดขึ้นมาอีก คราวนี้งัดแบบฝืนๆอีกแล้ว เพราะไม่รู้ Step การถอด ถ้ารู้จะง่ายขึ้นเยอะเลย (สำหรับคนที่อยากแงะบอกก็ได้ ให้ดึงฝั่งซ้ายขึ้นก่อน ตรง PCMCIA หนะ แล้วก็ดึงฝั่งขวาตรงแผน USB ขึ้น จะเหลือ VGA Port ก็สไลด์ดึงออกมาข้างหน้าได้เลย)




ได้เมนบอร์ดมาละ ไหนๆๆๆ เอามาดูดิ๊ว่ามีปัญหาอะไร ภาพแรกที่เห็นคือ... มีกระจุกขนริชชี่กระจุกใหญ่ปิดตรงช่องพัดลมแทบมิด เอิ๊กกกกกกก รีบเอาออกแล้วก็เป่าๆๆๆๆ ฮ่าาาาา ตกลงที่เข้าศูนย์ตลอด 3 ครั้งนี่ความผิดหมาชั้นเองหรอ? เอาจริงๆก็คงไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะบ้านอื่นไม่มีหมาก็ได้เข้าศูนย์กันครบทุกคนแล้วนี่ ~.~ แล้วก็ทำความสะอาดพัดลมนิดหน่อย ฝุ่นหนาเตอะเลย นี่ขนาดเปิดทุกวันนะเนี่ย! เช็คโน่นเช็คนี่ โอเค! น่าจะเวิร์คแล้ว เลยเอามาเทสต์ แต่... ครั้นจะประกอบกลับก็ขี้เกียจ เลย... เทสต์มันแบบนั้นเลย!! แบบไหนหรอ... ดูเอาเอง! อิอิ








ไม่รู้ว่าปกติเค้าทำกันแบบนี้เปล่า แต่โทษเหอะครับ ใครเดินผ่านมาเห็นก็ตกใจกันหมด บางคนถึงกับถ่ายรูปไว้เลย ๕๕๕ จริงๆมี Option มากกว่านี้ด้วยนะ ด้านซ้ายมีพัดลมตั้งพื้นเป่าอยู่อีกตัว แบบว่ากันมันร้อนจัดหนะ


เช็คๆดูแล้ว พัดลมหมุน ทุกอย่างโอเค บู้ท... หนึ่งวิ สองวิ สิบวิ หนึ่งนาที... ไม่ดับแล้ว!! เย้ๆๆๆๆๆๆ กรี้ดกร้าดๆๆๆๆ แทบจะกระโดดกอดคนทั่วห้อง ฮ่าๆๆๆๆ


เทสต์จนพอใจก็คิดว่าน่าจะหายแล้ว เลยประกอบใส่ Case แล้วเทสต์อีกรอบ




ปรากฎว่าคราวนี้... ลองเทสต์ Burn In ดู... ดับ!! เฮ้ยยยยย ไรว้าาาาา ทฤษฎีไหนเนี่ย ประกอบกลับแล้วดับเนี่ย!!!



จะเทสต์กี่ทีๆก็ดับ ไรว้าาาาา งงๆๆๆ งงกันถ้วนหน้าว่ามีอะไรผิด จากนั้นชิวก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา "หรือว่า... มันจะเกิดจาก Heat Pipe โดนกดด้วยแรงโน้มถ่วงโลก" ทั้งนี้เพราะตอนเทสต์แบบเปลือยๆเนี่ย เราหงายเมนบอร์ดแล้ว Heat Pipe อยู่ด้านบน แต่ตอนประกอบกลับมันจะคว่ำแล้ว Heat Pipe อยู่ด้านล่าง แล้วก็ถอดเมนบอร์ดมาส่องดู โอ้ววววว จริงด้วย Heat Pipe มันไม่ติดกับตัว IC นี่นา!! มีเหตุผลจริงๆ


ตกลงคือการตกพื้นเนี่ย มันทำให้ซิลิโคนหลุดออก เลยทำให้ระบายความร้อนจากการ์ดจอไปไม่ได้ เครื่องเลยดับทันทีที่ร้อน


ไม่รอช้า หยิบไขขวงมันไขเอา Heat Pipe ออก ปรากฎว่าได้เจอความชุ่ยอย่างหนึ่งของเครื่องรุ่นนี้เลย เพราะว่า Heat Pipe อยู่ห่างจาก IC การ์ดจอถึงเกือบ 2 มิลลิเมตร! ทำให้เค้าเลยต้องใช้ซิลิโคนแผ่นแปะมาติดแทนแบบหลอด เนื่องจากแบบหลอด (แบบเหลว) พอมันโดนความร้อนมันก็จะละลาย และทำให้มันเหลวลงมาหมด ไม่สามารถส่งต่อความร้อนไปที่ Heat Pipe ได้



เชี่ยมากครับขอด่า เชี่ยมากมากกกกกก ใครออกแบบครับไอ่ระยะ 2 มิลฯเนี่ย ปกติเค้าต้องออกแบบให้ชิดๆไม่ใช่หรอคร้าบบบบบบ โอยๆๆๆ โกรธๆๆๆ นี่ชั้นจ่าย 4 หมื่นซื้อเครื่องแบบนี้มาหรอฟะ!! โกรธ แล้วไอ่ซิลิโคนแบบแผ่นเนี่ย ได้รับการยืนยันมาจากชิวว่า มันระบายความร้อนได้ไม่ดีเลย ดูๆๆๆๆ ดูพี่เอเซอร์เค้าทำ เซ็ง!!


ที่บอกว่าเกือบ 2 มิลฯนั่นคือตัวการ์ดจอ X1600 นะ ยังมีอีกตัวเป็น Chipset อันนั้นอยู่ห่างจาก Heat Pipe สองมิลฯกว่า! อาจจะถึง 3 เลย บ้าเปล่าค้าบบบบบบ โกรธๆๆๆๆ




แต่ตอนนั้นยังไม่มีความรู้อะไรมาก อาศัยทดลองทดสอบไปเรื่อยๆ ซิลิโคนแผ่นก็ไม่มี ชิวเลยไปคว้าซิลิโคนขาวแบบหลอดมาให้ หนืดใช้ได้เลย ทาๆๆๆ คิดดูละกันต้องทามากแค่ไหนมันถึงจะประกบสองฝั่งเข้ากันได้ เฮือกกกก สองมิลฯ -_- แต่สุดท้ายก็ทาเสร็จอ่ะนะ


ทาเสร็จก็ประกบลองดู เปิดเครื่อง... ได้!! เย้ๆๆๆ ดีใจ ใช้ได้เลย เทสต์ Burn In ก็ไม่มีปัญหา วัดอุณหภูมิก็พบว่ามันเย็นมากเลย มากกว่าตอนซ่อมจากศูนย์เอเซอร์อีก ดีใจๆๆๆๆ รีบประกอบกลับทันที ประกอบไปเทสต์ไป เช็คทุก Step ก็พบว่าไม่มีปัญหาอะไร จนถึงขั้นตอนสุดท้าย... ตอนประกอบแผงสวิตซ์กลับ แล้วลองกดเปิดเครื่อง... ทำไม... เปิดไม่ติดวะ!!




ไหนๆ ลองขยับสายแพหน่อย... ทำไมติดแล้ววะ!! ว้ากกกก สายแย่ละๆ แต่ตอนนั้นยังพอเปิดได้อยู่ ลองปิดดูรอบนึงแล้วเปิดอีกรอบ คราวนี้... กดยังไงก็ไม่ติดครับ!! พ่อแม่พี่น้องเอ้ยยยยย กว่าจะซ่อมเสร็จได้เหนื่อยนะเฟ้ยยยย สายแพขาดในซะงั้นอ่ะ!!


เอ็มไก่ย่างเลยอาสาจะซ่อมสายให้ หลังจากไปนั่งบัดกรีสักแป๊บนึง ผลออกมาคือ... พังโดยสมบูรณ์ละทีนี้ ๕๕๕ แต่ไม่ซีเรียส เพราะจริงๆมันก็พังอยู่แล้วอ่ะนะ


ถึงตอนนั้นก็กลุ้มใจเลย เฮ้อออออ หลังจากวันนั้นก็เลยอยู่แบบไม่มีคอมพ์ใช้วันนึง แบบไปเดินเล่นห้างแก้เครียด เอ้อออ ชีวิตตอนไม่มีคอมพ์นี่ก็สงบดีนะ อิอิ


แต่ก็ยังกังวลกับงานอยู่ อย่างที่บอก มีงานกว่า 10 ชิ้นต้องส่งก่อนสิ้นปี เครียดๆๆๆๆ วันต่อมาเลยไม่รอช้าที่จะไปเดินพันธุ์ทิพย์เพื่อหา "สายแพ" เจ้ากรรมเส้นเล็กๆเพียงเส้นเดียว เดินๆๆๆๆ เดินจนขาลากก็ว่าได้ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง พบสองร้านที่มี ร้านแรกเรียก 300 บาท ร้านที่สอง 400 บาท (จริงๆเรารู้ราคาว่าที่แหล่งมันขายประมาณ 20 บาท แต่ไปแหล่งไม่ไหว) โคดโขกสับเลยเหอะ น่าเบื่อ :( ประเทศไทยนะประเทศไทย แต่ก็เข้าใจว่าสายที่เค้าเอามาขายเรามันเป็นสายงัดมาจากเครื่องที่เสียแล้ว ทำให้ต้องแพงหน่อย


ตอนแรกยังทำใจไม่ได้ เลยจำใจต้องเข้าศูนย์ Acer ถามว่ามีสายแพขายมั้ย เค้าบอกว่าไม่ขายแยกครับ ถ้าจะเอาต้องส่งเครื่องเข้าไปซ่อม แล้วก็จ่ายค่าช่างด้วย... เยี่ยม!! ฟันกรูสักสี่พันเลยมั้ยหละ ~.~ เลยยอมไปซื้อจากร้าน 300 บาท เข้าไปบอกว่าขอซื้อ เค้าก็... หายเข้าไปหลังร้านประมาณ 20 นาที เราก็งงว่าเค้าทำอะไรอยู่วะ!! อ๋อก็ตอนเค้าเอาออกมา สายที่ได้มาเนี่ยเป็นสายที่ไม่เรียบร้อยเลย ดูออกชัดเจนว่าไปตัดมาจากกี่เส้นไม่รู้เหลือ 12 เส้น แล้วก็ขูดขั้วตรงหัวออกจนเปิดเปิง ไม่เป็นไร ขอให้ใช้ได้ก็พอ... ไหนลองเสียบดิ๊ เสียบครั้งแรก... ไม่ได้!! ไรว้าๆๆๆ ถอดแล้วเสียบอีกครั้ง เปิด... เฮ้ยๆๆๆๆ ทำไมสายไฟร้อนวะๆๆๆ เฮ้ยๆๆๆๆ รีบดึงสายออกทันที แน่นอนฮะ เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก... ไฟช็อต =_= ฮ่วยยยย แล้วสายก็พังไปเลยนะ ขั้วกระจุยไปแล้ว :( เลยจำยอมต้องขอซื้อสายไป เพราะทำของเค้าพังแล้วนี่ เค้าก็ใจดีลดให้เหลือแค่ 200 บาท เหอะๆ แค่นะแค่ เซ็งเป็ด!!


เฮ้อ.... คอตกครับคอตก ไม่มีหวังแล้วสิกับเครื่องนี้ สิทธิพลเลยไม่รู้จะทำยังไงแล้ว กลุ้มมากๆ งานเยอะอ่ะ เลยไปกดมาสี่หมื่นเก้าร้อยบาท แล้วก็... ถอย HP Pavilion dv2626tx มา



เอิ๊ก!! ไม่ได้ล้อเล่น! เรื่องจริง!!! นั่นแหละ หาสายแพราคา 20 บาทไม่ได้ เลยจ่าย 40,900 บาทซื้อเครื่องใหม่เลย!! แต่จริงๆแล้วเราก็ตั้งใจจะซื้อเครื่องใหม่อยู่แล้วหนะ Acer เราไม่มั่นใจในประสิทธิภาพเครื่องมัน นี่โชคดีที่มันพัง ทำให้เราเลยรู้ว่าข้างในมันทำมาได้ห่วยแค่ไหน การตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ครั้งนี้เลยทำไปโดยไม่ต้องคิดอะไรมากเลย แค่เซ็งที่ว่าหนึ่งปีที่แล้วทำไมเราถึงโง่งี้ว้าาาา ดันไปซื้อของห่วยๆอย่าง Acer มาซะได้ ไม่ต้องคิดจะคุยกันแล้วนะยี่ห้อนี้ แย่มากๆ :(


ขากลับก็ลองเอาสายไฟไปแหย่ๆ Socket เครื่องเก่า (โดนลดขั้นไปเป็นเครื่องเก่าแล้ว โอย น่าหงุดหงิด สี่หมื่นบ้านชั้น!) ปรากฎว่า... เครื่องเปิดขึ้นได้โดยบังเอิญ!!




วิธีก็ไม่ยากเลย เอาสายไฟใส่เข้าไป หมุนไปหมุนมานิดหน่อย แล้วก็ดึงออก เครื่องก็จะเปิดขึ้นอย่างงงๆ =_= บ้าไปแล้ว หลังจากนั้นมาก็ใช้วิธีนี้เปิดเครื่องตลอด แต่จริงๆก็ไม่บ่อยหรอก เพราะว่าพอเปิดได้แล้วก็ไม่ปิดเลย Standby ตลอด จะมีก็แต่ตอนเครื่องดับ... ใช่แล้วเครื่องดับ! ได้ยินไม่ผิดหรอก เพราะตกลงที่ทาซิลิโคนไว้มันได้ผลแค่ระดับหนึ่ง เปิด Windows ได้ เล่นโปรแกรมทั่วๆไปได้ พิมพ์งานได้ แต่เปิดอะไรที่เป็น Graphics ไม่ได้เลย เช่นเกม หรือโปรแกรมตัดวีโอเนี่ย ไม่ได้เลย ดับตลอด!! ดับเร็วด้วย นั่นแปลว่าซิลิโคนหนาๆนั้นไม่ได้ช่วยอะไรชีวิตเลย เป็นผลให้ต้องไปซ่อมกันอีกรอบเมื่อวานซืน ซ่อมกันหลายวิธีก็ไม่สำเร็จ ล่าสุดเมื่อวานนี้เองก็ซ่อมสำเร็จเสียที แถมดีกว่าเดิมด้วย! อิอิ ไว้ต่อ Blog หน้าว่าใช้วิธีไหนในการซ่อม รับรองว่า "คาดไม่ถึง"


สำหรับ hp pavilion dv2626tx ที่ซื้อมาเดี๋ยวจะมารีวิวไว้อีกที Blog หน้าๆ วันก่อนสนุกมากเลยกับการยำเครื่องนี้เนี่ย หะหะ สนุกเห้ๆเลย -_- ไว้มาเล่าให้ฟังละกัน


วันนี้คงจะรู้กันระดับหนึ่งแล้วว่าการออกแบบของเครื่องรุ่นนี้เป็นยังไง ก็หวังว่าคงจะไม่มีใครโดนหลอกซื้ออีกนะ แย่มากๆ :( สำหรับคนที่ซื้อมาแล้วก็... ร่วมถกกันได้นะครับ ผมคงเป็นคนแรกๆที่งัดมันออกมาลงเว็บให้ดู คงจะได้เห็นความจริงกันถ้วนหน้าแล้วว่า โน้ตบุ๊คราคาสี่หมื่นนี้มันทำชุ่ยแค่ไหน เฮ้อ...


จบ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nov 19, 2009, 04:34
84827 views
รีวิว Nokia E72
Nov 23, 2009, 07:17
47931 views
รีวิว Nokia E72 ภาคซอฟต์แวร์
0 Comment(s)
Loading