"จงให้แล้วเจ้าจะได้รับ"
หมดเวลาสำหรับ Smartphone Platform ที่ 3 - โลกเข้าสู่ยุค Android Everywhere
4 Oct 2014 21:54   [21773 views]

ก็ลุ้นกันอยู่นานว่าใครจะได้เป็น Smartphone Platform ที่ 3 จากเดิมตัวเก็งมีตัวเดียวคือ Windows Phone ก็คงได้ที่ 3 แน่ๆแล้ว ตะตะตะแต่ หลังจากสงครามสงบลงแล้ว ผลกลับกลายเป็นว่า ...

... ไม่มีใครได้ที่ 3 ...

ตอนนี้โลกนี้จึงมีแค่ ที่ 1 ที่ 2 และ ... ที่เหลือ เท่านั้น

เพราะ Windows Phone ไม่สามารถทำตัวเองให้เป็น Smartphone ได้ ถึงจะขายดียังไง ก็ยังเป็นการขาย Feature Phone

อื้ัมๆ ไม่ได้เขียนบทความแบบนี้มาสักพักละ รู้สึกเริ่มไม่ค่อยอินกับด้านมือถือเท่าไหร่แล้วแฮะ ... (จริงๆ) อาจจะไม่ได้เฉียบคมมากเหมือนแต่ก่อน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ ตอนนี้เปลี่ยนสายแล้วหงะ

แต่ก็เอาน่า ยังพอเขียนได้ ...

ถือเป็น Checkpoint สำหรับนักพัฒนาทั้งหลายละกัน เผื่ออยากจะรู้แนวทางและมุมมอง Forecast ไปในอนาคต จะได้ลงทุนกับเทคโนโลยีที่ถูกต้อง ไม่เสียเวลาเปล่า

หมายเหตุ: เป็นมุมมองส่วนบุคคล ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ

Windows Phone สอบตกในฐานะ Smartphone

ก็เริ่มจากว่าทำไม Windows Phone ถึงตกชั้นไปอยู่กับพวก "ที่เหลือ" แทนที่จะเป็นที่ 3 ละกันโนะ

จริงๆเขียนไปนานแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น แถมแย่ลงด้วย

Windows Phone มียอดขายก็จริง แต่ดันไปเยอะทาง Low End หรือคนที่ไม่ใช้แอพฯ ใช้มันเป็นแค่มือถือไว้โทรเข้าโทรออกเล่นเฟสเล่นไลน์บ้าง จบ

เมื่อตีเป็นมูลค่าของ User แล้ว ก็คือแทบไม่มีมูลค่าเลย (Android มีมูลค่า User เฉลี่ยต่อคนน้อยกว่า iOS ประมาณ 10 เท่า ส่วน Windows Phone นี่น้อยกว่า Android อีกเป็นสิบเท่า)

* เป็นเทคนิคส่วนตัวในการคำนวณ Potential อย่าดูแค่จำนวน User หรือ Market Share เวลาตีมูลค่าต้องมี Weight เข้ามาคูณด้วย โดยใช้ข้อมูลจากพวก comScore มาหารเอา

ผลก็คือนักพัฒนาไม่มองและไม่สนใจจะทำแอพฯลงเลย

จริงอยู่ที่ไมโครซอฟท์ผลักดันเต็มที่ อัดฉีดเงินไปเยอะมาก แต่สุดท้าย Strategy อัดด้วยเงินก็ส่งผลแบบที่ไม่ผิดคาดเท่าไหร่นัก ... มีแต่แอพฯปลอมและ Spam ที่ทำมาเพื่อรับเงินรางวัลแล้วก็จบเท่านั้น

ส่วนแอพฯที่คนใช้งานจริงๆก็น้อยมาก หรือที่มีก็ไม่มีคุณภาพ ก็อย่างที่เห็นหละครับ

สาเหตุด้าน User ก็ส่วนหนึ่ง แต่สาเหตุที่ใหญ่มากอีกส่วนหนึ่งคือการที่ "Windows Phone ออกแบบระบบปฏิบัติการมาไม่ดี" นั่นเอง

ได้ทำแอพฯ Windows Phone มาหลายตัว ทำไปก็อึดอัดไป เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย มีแต่ปัญหา สุดท้ายใช้เวลาพัฒนาเยอะกว่าทุก Platform เพราะเจอปัญหาตลอดทาง

ได้ล้วงแคะแกะเกาจนเข้าใจว่าตัว Core UI มันมีปัญหา พยายามออกแบบให้มันลื่น (User ใช้แล้วรู้สึกมันลื่นดีใช่มั้ยหละ) แต่กลับกลายเป็นไม่มีความยืดหยุ่นทางด้านโปรแกรมมิ่ง แอพฯที่ทำก็ออกแบบให้มันดีและหวือหวาไม่ได้เลย ไม่สามารถออกนอกกรอบได้ ต้องอยู่แต่ในกรอบแบบนั้น

รอแล้วรอเล่า ลุ้นแล้วลุ้นอีก อัพเดต OS ทีก็มานั่งเช็คว่าแก้ให้มันดีขึ้น ยืดหยุ่นขึ้นหรือยัง

จนแล้วจนรอด ผ่านไปกี่่ปีแล้วเนี่ย ยังเหมือนเดิมเลย ...

สรุปได้ว่าปัญหาของ Windows Phone หลักๆเกิดจากนโยบายของ Microsoft เองที่พยายามทำระบบปิดเหมือน Apple แล้วยัดเทคโนโลยีของตัวเองลงไป แต่ผลที่ได้กลับสะท้อน "ความไม่เข้าใจในการทำระบบปฏิบัติการมือถือ" คือ Listbox เนี่ยมันสำคัญมากสำหรับ Smartphone Platform จะทำแอพฯให้มันหวือหวาได้ Listbox มีส่วนสำคัญมาก แต่ Microsoft กลับเลือกจะปิดความสามารถของ Listbox ลง

ยังไม่หมดแค่นั้น พี่ไมฯเลือกจะให้นักพัฒนาไปใช้ DirectX แทน OpenGL อีกตะหาก ... ปัญหาใหญ่โตเลย

และทั้งหมดโดยรวมนั่นคือปัญหาใหญ่ เพราะมันผิดตั้งแต่แนวทางแล้ว ออกมาอีก 10 เวอร์ชั่นก็คงไม่มีอะไรต่างจากเดิมหากทางเดินยังเหมือนเดิมแบบนี้

ซึ่งก็เข้าใจนะว่าอาจจะเป็นการโยนหินถามทาง แต่เนี่ย ... ตัวเลขมันก็ออกมาแล้วว่ามันไม่เวอร์ค แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปรับปรุงอะไร แถมทุกอย่างยังพัฒนาช้ามากกกกกกกกกกกก นี่ที่เห็นผ่านมากี่ปีเนี่ย เทียบได้กับ Android พัฒนาขึ้นมาเวอร์ชั่นเดียวเองมั้ง คือแบบว่า ช้ามากกกกกกก ช้าแบบสิ้นหวัง

ถามว่าตอนนี้ Windows Phone คืออะไร? เนยเคยให้คำนิยามว่ามันเป็น Feature Phone นะ ... ตอนนี้ก็ยังเป็นคำเดิมอยู่หละ เนยว่ามันยังเป็นได้แค่ Feature Phone อ่ะ

ดังนั้นก็เลยคิดว่า ...

Windows 10 ก็ไม่น่าจะกู้สถานการณ์ Smartphone ได้

ถึง Strategy จะออกมาชัดแล้วว่าจะเป็นการ "รวม OS เข้าด้วยกันเป็นตัวเดียว" ก็เป็นแนวทางที่ดี (จริงๆต้องบอกว่า "ต้องทำอยู่แล้ว") เพียงแต่ ... ทำช้าไป 2 ปีเห็นจะได้ ตอนนี้มันช้าไปแล้วอ่ะ มันไม่มีผลอะไรแล้วอ่ะ

ยังไม่รู้รายละเอียดมาก ก็ถือเป็นการ Forecast แหละนะ เรา Bet ไปทาง "เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"

เลขเวอร์ชั่นที่เพิ่มขึ้นก็คงเหมือนตอนที่ 7 เพิ่มเป็น 7.1, 7.5, 7.8, 8.0 และ 8.1 ... ไม่มีอะไรต่างจากเดิม พัฒนาช้ามาก เน้นแต่ Marketing แต่ตัว OS แย่ยังไงก็แย่อย่างงั้น เสมอต้นเสมอปลาย คงเส้นคงวา

วางธงไว้ 4 ข้อ หากไม่ทำครบทั้ง 4 ข้อนี้ ชีวิตที่ลำบากอยู่แล้ว ... ก็คงจะลำบากต่อไป

1) เขียน Core UI ใหม่หมด วัดผลด้วยความยืดหยุ่นของ Listbox

2) อย่าให้ Crash โดยไม่มีสาเหตุและ Track Stacktrace ไม่ได้อีกเลย

3) ให้ใช้ OpenGL ได้

4) ให้ Microsoft พัฒนา OS เร็วขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า

และต้องให้ Microsoft สร้าง Surprise อะไรบางอย่าง เช่นเอาแอพฯแอนดรอยด์มารันได้ (ฝัน) สามารถแปลงโค้ดจาก iOS/Android แล้ว Port มาได้เลย บลาๆๆ ก็ว่าไป

แต่คงไม่มี Surprise นี้ ... เพราะตัวเราไม่ศรัทธาในมุมมองและแนวทางของ Microsoft ที่มีต่อ Smartphone Platform เลย ...

รอดูกันต่อไป ตอนนี้นักพัฒนาอย่าเพิ่งไปจับ Windows Phone ดีกว่าครับ ได้ไม่คุ้มเสีย ส่วน User ... ใครใคร่ค้าม้าค้าจ้า

Smartphone Platform ตัวอื่นกลายเป็น "ที่เหลือ" หมด

ก็คงมี Platform อื่นยิบย่อยออกมาให้เล่นกันบ้าง เช่น Tizen (ซึ่งแท้งไปแล้ว คงเหลือแต่ใช้สำหรับพวก Wearable), Jolla Sailfish และอีกสารพัด

พวกนี้เนี่ย ... อาจจะมีบ้างที่เหลือรอดไปอีกเป็นปีจากทุนที่มีอยู่ แต่คงมีเยอะที่ต้องตายไปเลยเพราะตลาดไม่ต้องการ OS เพิ่มอีกแล้ว

Android รวมถึง Android Fork จะทำการเบียดทุก Segment จนไม่มี OS ไหนมีที่ยืนอีก รวมถึง Windows Phone ด้วย คงจะมีการผลิตออกมาอยู่เรื่อยๆเพราะซื้อโนเกียไปแล้วหนิ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าจะสำเร็จ มันเป็นภาคบังคับ ยังไงก็ต้องทำ

สรุปแล้ว จากนี้จะมีแค่สองตัวที่เดินต่อไปอย่างเต็มภาคภูมิ และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่คิดว่าจะมีใครมาตีได้อีกแล้วครับ มีแค่สองตัวนี้ที่จะได้ไปต่อ

Android และ iOS

ครับ iOS ก็จะยังอยู่ และจะอยู่รักกับ Android ไปอีกนานแสนนาน ... ไม่ต้องแช่งให้เค้าตายหรอก ยังไงก็ไม่ตาย ...

ส่วน "ที่เหลือ" ก็จะกลายเป็นที่เหลืออยู่อย่างนั้น เพราะมันหมดเวลาแล้วสำหรับ OS ที่สามครับ การแข่งขันมันจบไปแล้ว

ยินดีต้อนรับสู่โลก Android Everywhere

และนี่คงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เป็นจุดประสงค์ของ Blog นี้เลย

โลกของ Android Everywhere

ตลาดมือถือมันจบแล้ว จากนี้ก็ขายๆกันไป ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ละ แต่ Android จะไม่หยุดเพียงเท่านั้น มันจะไปฝังตามสิ่งต่างๆ อยู่ร่วมกับ Internet of Things อย่างสมบูรณ์แบบ

อย่างที่เห็นตอนนี้ก็มีไปลง Wearable (Android Wear) ทีวี (Android TV) และรถยนต์ (Android Auto)

ไม่ใช่แค่นั้น พัดลม ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น ลำโพง ฯลฯ ทุกอย่างจะล้วนรันด้วย Android ทั้งสิ้น เพราะ Core ของ Android ถูกพัฒนามาจนสมบูรณ์แบบแล้ว จากนี้คือการเอาไปใช้แล้ว

โลก Android Everywhere นี้เริ่มขึ้นแล้ว และจะชัดขึ้นๆๆๆ รู้ตัวอีกที ทุกอย่างรอบตัวเราก็เป็นแอนดรอยด์หมดแล้ว ตามชื่อเลย Android Everywhere

ต้องยอมรับนะว่าตลาด Mobile App ซบเซาแล้ว ขาลงและจะลงไปอีกเรื่อยๆ การทำอาชีพเป็นนักพัฒนาแอพฯบนมือถือมันไม่พอแล้ว ต้องมองว่ามันจะไปอยู่บน Device อื่นๆด้วยและตามให้ทัน

ถ้ายังอยากจะทำด้าน Mobile/Embed อยู่ อยากให้จับ Android ไว้แน่นๆเลยครับ เพราะโลกจากนี้จะถูกผูกขาดกับแอนดรอยด์แล้ว iOS ก็จะอยู่ของมันไปอย่างงั้น แต่ Android จะขยายออกไปเรื่อยๆ

และกูเกิ้ลจะครองโลกโดยสมบูรณ์ครับ ...

สวัสดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Sep 10, 2014, 09:01
6754 views
สรุปงาน iPhone 6, 6+, Apple Watch ... เปลี่ยนโลกได้มั้ย?
Sep 26, 2014, 09:08
7753 views
เทคโนโลยีมีไว้เปลี่ยนโลก แอบดูเทคโนโลยีที่ซัมซุงใช้ทำ Audio Guide ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Leeum
0 Comment(s)
Loading